โปรแกรมสำหรับวันนี้ เราได้ตกลงกับน้องแล้วว่า จะพาไปเล่นของเล่น กินขนม และไปตรวจฟัน ซึ่งน้องก็ทำท่าเข้าใจดี น้องยังพูดเองว่า "เดี๋ยวน้องพราวจะไปหาคุณหมอตรวจฟันนะ"
นัดคุณหมอไว้ช่วงบ่าย ดังนั้นช่วงเช้าจึงพาเที่ยวก่อน หลังจากทานอาหารเที่ยงเสร็จสรรพ ก็มุ่งหน้าต่อไปยังคลีนิคทันตแพทย์ CDJ Dental Clinic Chiang Mai มาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย แต่น้องไม่ตื่นเต้นเลยค่ะ เพราะเคยพามาแล้วเมื่อประมาณ 2 ขวบ ระหว่างรอก็เอาหนังสือการ์ตูนมาอ่าน (ดูรูปเท่านั้นแหละ..ยังอ่านไม่เป็นหรอก)
##คุณแม่ขอย้อนกลับไปเล่าตอนที่เคยพามาหาหมอฟันเมื่อ 2 ขวบ ตอนนั้นน้องยังค่อนข้างเล็ก การมาหาหมอฟันเป็นสิ่งแปลกใหม่ น้องยังกังวล แต่เราพยายามที่จะพามาเพื่อสร้างความคุ้นเคย ไม่ได้คาดหวังว่าน้องจะยอมให้ตรวจหรือไม่ แต่น้องก็ยอมให้คุณหมอตรวจโดยต้องให้คุณพ่ออุ้มนอนบนตัวคุณพ่อ แล้วคุณพ่อนอนบนเก้าอี้ทำฟันอีกที ตอนนั้นคุณหมอทำได้แค่ตรวจ ผลคือฟันไม่ผุ และได้สอนการแปรงฟัน น้องไม่ร้อง แต่ก็ยังทำท่ากลัวเล็กน้อย คุณหมอจึงยังไม่แนะนำให้ทำอะไรเพิ่ม เสียเงินไปแค่ 70 บาท ได้แปรงสีฟันกลับบ้านมาอันนึง กับลูกโป่ง แค่นี้น้องก็ดีใจแล้ว## บางท่านอาจสงสัยว่าทำไมถึงเลือกคลีนิคนี้ ไม่มีไรมากเลยค่ะ คือเราไม่ค่อยมีเวลาที่จะพาน้องมา ดังนั้นเราจึงลองโทรเช็คคิวว่างกับคลีนิคชื่อดังสำหรับเด็กโดยตรงหลายที่แต่ไม่มีคิวว่างในวันที่เราสะดวกเลย เหลือที่นี่ยังพอมีคิวให้ แต่ก็ยังติดปัญหาว่าวันที่เรานัดไม่มีหมอเฉพาะทางสำหรับเด็ก จนท.บอกกับเราว่ามีคุณหมอ(ผู้หญิง)ท่านนึงซึ่งเค้าก็มีลูกวัยใกล้เคียงกัน จึงทำการนัดหมายให้... เราก็ตอบตกลง แต่ยังกังวลว่าถ้าไม่ใช่หมอเฉพาะเด็กโดยตรงเค้าจะมีวิธีหลอกล่อเด็กหรือเปล่านะ เมื่อได้พบกันคุณหมอก็พูดคุยกับน้องดีมาก ๆ ชวนคุย พูดชมให้กำลังใจ สรุปคือน้องไม่กลัวค่ะ แอบบอกชื่อคุณหมอนิดนึง ชื่อคุณหมอขนม##
เข้าไปพบคุณหมอขนม (คนเดิม) เนื่องจากมีประวัติและคุ้นเคยกันบ้างแล้ว คุณแม่จึงเลือกมาที่เดิมและขอนัดคุณหมอท่านเดิมค่ะ น้องสวัสดีคุณหมอ และคุณหมอชวนน้องคุยสร้างความคุ้นเคยก่อน (ยังไม่เริ่มตรวจ) น้องตอบชื่อและคุยกับคุณหมอได้ดี คุณหมอถามว่าวันนี้คนเก่งจะนั่งเก้าอี้คนเดียวได้ไหม น้องตอบว่าได้ พี่ผู้ช่วยอุ้มน้องขึ้นนั่งแล้วเปิดการ์ตูนให้ดู (ในห้องมีทั้งพ่อ แม่ และคุณย่า ไปนั่งให้กำลังใจกันเต็มห้อง แต่น้องให้ความร่วมมือได้ดี ทางผู้ให้กำลังใจทั้งหลายจึงได้แต่นั่งดูเฉย ๆ) วันนี้ก็เริ่มต้นจากการตรวจเบื้องต้นก่อน คุณหมอให้น้องอ้าปากเพื่อขอดูฟัน ไม่มีฟันผุค่ะ แต่ฟันยังขึ้นไม่ครบ ยังขาดอีก 3 ซี่ คุณหมอหันมาอธิบายให้พวกเราฟังว่าเด็ก ๆ มักจะแปรงฟันเองไม่สะอาด ดังนั้นผู้ใหญ่ควรแปรงซ้ำให้ทุกครั้ง และสำหรับวันนี้คุณหมอจะลองดูก่อนว่าน้องจะยอมให้ความร่วมมือแค่ไหน ถ้าไม่มีปัญหาคุณหมอจะขัดฟันและเคลือบฟลูออไรด์ให้ การขัดฟันจะใช้แปรงที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าเสียงดังเล็กน้อย คุณหมอเปิดให้น้องฟังก่อนว่ามันจะมีเสียงดังนิดนึง แต่ไม่เจ็บ ลองเปิดเครื่องแตะที่เล็บน้อง เพื่อให้ดูว่ามันไม่เจ็บจริง ๆ และน้องก็ยอมให้ขัดฟันแต่โดยดี
การเคลือบฟลูออไรด์มี 2 แบบ คือ แบบทา และ แบบให้งับถาดโฟมพลาสติกนิ่ม ๆ ซึ่งเทฟลูออไรด์ไว้ในถาด (ตามรูปเลยค่ะ) # แบบทาจะไม่ค่อยได้ผลดีนักเพราะฟลูออไรด์ไม่ซึมเข้าผิวฟันได้ดีเท่าแบบงับถาด สำหรับครอบครัวเรา เอาแบบไหนก็ได้ค่ะ ทำเท่าที่น้องจะยอมให้ความร่วมมือโดยไม่บังคับ เพราะไม่อยากให้น้องกลัว # แต่ผลสรุปคือน้องให้ความร่วมมือดีทุกอย่าง สามารถเคลือบฟลูออไรด์โดยงับถาดและจับเวลาประมาณ 3-4 นาทีได้ ไม่ร้องไห้เลย ฟลูออไรด์ก็มีหลายกลิ่น เช่น สตรอเบอร์รี่ ส้ม ผลไม้รวม น้องเป็นคนเลือกกลิ่นเอง
คุณหมอชมว่าน้องเก่งขึ้นมาก ให้ความร่วมมือดี คุณแม่ถือว่าดีเกินที่คาดหมายไว้ เมื่อเสร็จสิ้นการทำฟันแล้ว น้องได้ของรางวัลเล็กน้อยจากคุณหมอเป็นลูกโป่ง แหวนพลาสติกสีสวย 2 วง และตุ๊กตากระดาษ กลับบ้านด้วยความรู้สึกประทับใจ น้องยังพูดเองบ่อย ๆ ว่าคุณหมอใจดี หมดค่าใช้จ่ายไป 600 บาทเท่านั้น คุณหมอแนะนำให้มาตรวจและเคลือบฟลูออไรด์ทุก 6 เดือน .... ^_^ ......
คุณแม่บันทึก VDO บางส่วน (การขัดฟัน) ไว้ให้น้องได้ดูภายหลังด้วยค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น