ครบ 3 เดือนแล้ว ถึงเวลาที่คุณแม่จะต้องกลับไปทำงานซะที รู้สึกใจหายเหมือนกันนะ ที่ผ่านมาอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคุณย่ากับคุณปู่เดินทางมาหาหลานสาว ต้องมารับช่วงเลี้ยงเด็กน้อยหลังจากที่คุณแม่จะต้องไปทำงาน ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือ น้องพราวไม่ยอมกินนมขวดเอาซะเลย คุณแม่พยายามอยู่หลายครั้งใน 2 สัปดาห์ก่อน ทั้งหลอกล่อ ทั้งให้รอจนหิว แต่ก็ไม่สำเร็จ พอหนูร้องไห้คุณแม่ก็ใจอ่อนทุกที เป็นความกังวลมากมายว่าหลังจากที่ไปทำงานหนูจะุอยู่ยังไงน๊า...
อย่างนึงที่พอทำได้คือ ป้อนนมด้วยช้อน หนูก็ทานได้ แต่มันช้ามาก และปริมาณที่กินได้แต่ละครั้งก็น้อยเกินไป แล้วเมื่อไรจะโตล่ะนี่
ก่อนถึงวันไปทำงาน 1 วัน คุณแม่ลองหนีออกไปธุระนอกบ้านเกือบครึ่งวัน ให้น้องพราวทดลองอยู่กับคุณย่าตามลำพัง (คุณปู่มาส่งอยู่ 1 อาทิตย์ ตอนนี้กลับบ้านไปแล้วค่ะ) ผลก็คือร้องไห้จ้า เพื่อนบ้านคุณย่า คุณยายแถวนั้นก็วิ่งมาช่วยดู ช่วยอุ้ม กันให้วุ่นวาย เอาแต่ร้องไห้ หิว แต่ไม่ยอมกินนมเลย คุณย่าเองเห็นหลานร้องไห้ทำอะไรก็ไม่ดีขึ้น ก็พลอยร้องไห้ไปกับหลานด้วยเพราะสงสาร พอคุณแม่กลับมาน้องพราวถึงจะยอมกินนม (กินจากเต้า) คราวนี้ยิ่งเพิ่มความกังวลมากขึ้นไปอีก จะทำไงดีล่ะ พรุ่งนี้ก็จะต้องไปทำงานจริง ๆ แล้ว จะทำไงดี.... สุดท้ายลองโทรหาคุณยาย พรุ่งนี้ให้มาช่วยดูเป็นเพื่อนคุณย่าหน่อย เพราะคุณย่าเองก็ยังไม่รู้ใจน้องพราว เพิ่งจะเจอกันได้แค่สัปดาห์เดียว ยังทำอะไรไม่ค่อยถูก
ถึงวันที่ไปทำงานแล้วค่ะ ไม่อยากไปเลย ต้องเตรียมอุปกรณ์หลายอย่าง ทั้งอุปกรณ์ปั๊มนม อุปกรณ์การเก็บนมกลับมาบ้าน ช่วงสาย ๆ โทรกลับมาถามเป็นระยะว่าน้องพราวอาละวาดอีกไหม คุณย่าบอกว่าน้องพราวยอมกินนมขวดแล้ว เพราะว่าคุณยายหาวิธีหลอกได้สำเร็จ คือ เอานมของคุณยายให้ดูดก่อน (มันก็ไม่มีน้ำนมหรอกนะ) แล้วพอสักพักก็เอาขวดใส่ปากแทนอย่างรวดเร็ว น้องพราวก็ดูดต่อได้ ถือว่าสำเร็จแล้ว หลังจากนั้นในมื้ออื่น ๆ ก็ยอมดูดจากขวดแต่โดยดี เฮ้อ..โล่งอกซะที
ปัญหานี้เป็นเรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ที่ผ่านมาคุณแม่ก็ให้กินนมตัวเิองมาโดยตลอด เพราะเข้าใจว่าน่าจะดีกว่า กลัวลูกจะติดขวดนมแล้วไม่ยอมกินนมแม่ แต่ที่จริงควรกินควบคู่กันไป น้ำนมแม่เอาใส่ขวดให้ดูดบ้างก็ได้ เพียงแต่ต้องสลับวิธีการให้นม เพื่อให้น้องคุ้นเคยกับการกินในหลาย ๆ รูปแบบ จะได้ไม่เจอปัญหาใหญ่แบบนี้ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น